ขนมเปี๊ยะ สุดยอดขนมมงคลในทุกโอกาส

ขนมเปี๊ยะ หรือ หล่าเปี้ย (朥饼) สุดยอดขนมมงคลในทุกโอกาส แต่เดิมขนมเปี๊ยะเป็นขนมแป้งสาลีบางกรอบที่มีไส้อยู่ข้างใน และประทับอักษรมงคลซังฮี้ (囍) สีแดงอยู่ตรงกลาง นิยมใช้ไส้ที่ทำจากฟักเชื่อมและมันหมู เมื่อชาวจีนเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองไทย การทำขนมเปี๊ยะจึงถูกแพร่หลายมาเรื่อยๆ จนผสมผสานกันทั้งสองวัฒนธรรม เกิดเป็นขนมเปี๊ยะที่มีกลิ่นอายและรสชาติที่แปลกใหม่ เช่น ขนมเปี๊ยะไส้ทุเรียน ไส้ไข่แดง ไส้เผือก เป็นต้น

ชาวจีนนิยมเลือกขนมเปี๊ยะมาใช้ในงานมงคลหรือเทศกาลสำคัญต่างๆ เพราะเป็นขนมที่สื่อถึงความปรารถนาดี โดยมีตำนานที่เล่าขานกันมาว่า สามีภรรยาฐานะยากจนคู่หนึ่งจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาพ่อของสามีป่วยหนัก ลูกสะใภ้จึงตัดสินใจนำตัวเองไปขัดดอกแลกกับการยืมเงินก้อนนี้ แต่ฝ่ายสามีรู้ดีว่านี่ควรเป็นหน้าที่ของตนจึงทดลองทำขนมที่มีไส้ทำจากฟัก ห่อหุ้มด้วยแป้งสาลี กลายเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อย หอมกรุ่นนุ่มละมุนลิ้น จนกลายเป็นสินค้าขายดีที่ผู้คนชื่นชอบ จนสามารถนำเงินไปรักษาพ่อและไถ่ตัวภรรยาคืนกลับมาได้ และตั้งชื่อขนมชนิดนี้ว่า เหล่าผั่วเปี๊ยะ(老婆饼) แปลว่า ขนมภรรยา นั่นเอง

ขนมเปี๊ยะ จึงมีความหมายที่เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความรัก ความกตัญญูที่มีต่อคนในครอบครัว รวมไปถึงความเอื้ออาทรระหว่างสามีภรรยาที่มีต่อกัน อีกทั้งรูปร่างกลมๆ ของขนมยังสื่อถึงความสามัคคีกลมเกลียว ทำให้กลายเป็นขนมที่คนจีนนิยมนำมาใช้ในประเพณีหรืองานมงคลต่างๆ

ปัจจุบัน พฤติกรรมการซื้อขนมเปี๊ยะได้เปลี่ยนไป ผู้คนไม่ได้ซื้อขนมเปี๊ยะเพียงเพื่อประกอบในพิธีมงคลเพียงอย่างเดียว แต่ยังซื้อขนมเปี๊ยะเพื่อเป็นของฝากหรือเพื่อบริโภคอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก

กินข้าวกับอาม่า วัฒนธรรมอาหารการกินของลูกจีนในเมืองไทย โดย อดุลย์ รัตนมั่นเกษม

เพจ Maeban - แม่บ้าน

เพจ หมื่นเทพเทวะ

https://www.matichonacademy.com/content/article_58282

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/493535