วิวัฒนาการปฏิทินน่ำเอี๊ยง

ทำความรู้จัก “น่ำเอี๊ยง” ธุรกิจปฏิทินและสำนักโหราศาสตร์จีนที่เป็นดั่ง “ที่พึ่งทางใจ” ให้กับคนไทยมากว่า 80 ปี

น่ำเอี๊ยงนั้นมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นสำนักโหราศาสตร์จีน ก่อตั้งโดยซินแสเฮียง แซ่โง้ว ซึ่งในตัวของซินแสนั้นสนใจในด้านโหราศาสตร์มาตั้งแต่เยาว์วัย จึงได้ศึกษาและพัฒนาความรู้จนสามารถทำเป็นอาชีพได้ ในเวลาต่อมาได้ก่อตั้งสำนักโหราศาสตร์จีนในกรุงเทพในปี พ.ศ. 2499 โดยใช้ชื่อว่า “น่ำเอี๊ยง” ซึ่งหมายความว่า “แสงอาทิตย์จากทิศใต้อันเป็นทิศแห่งมงคล”

ซินแสเฮียงมีความตั้งใจที่จะเผยแพร่ความรู้ด้านโหราศาสตร์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ในปีพ.ศ. 2516 จึงได้เริ่มนำข้อมูลทางโหราศาสตร์จีน ใส่เข้าไปในปฏิทินและจัดทำเป็นตำราปฏิทินขึ้นมา ภายในจะมีฤกษ์ยาม สิ่งที่ควรและไม่ควรทำในแต่ละวัน

เมื่อถึงคราวที่คุณชาญชัย และธงชัย นำพิทักษ์ชัยกุล รุ่นที่ 2 ของน่ำเอี๊ยงมารับช่วงต่อ ทั้งสองมีความคิดอยากขยายตลาดให้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ จึงเริ่มนำสินค้าไปนำเสนอขายโรงพิมพ์ต่าง ๆ โดยภายในปฏิทินมีเนื้อหาทางโหราศาสตร์แบบรายเดือน และนำเนื้อหาในปฏิทินไปพิมพ์โฆษณาให้กับลูกค้า ด้วยทั้งสองกลยุทธ์นี้จึงทำให้น่ำเอี๊ยงกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เข้าถึงคนไทยได้มากกว่าเดิม และเป็นหนึ่งใน “ของต้องมี” สำหรับผู้คนมาจวบจนทุกวันนี้

ถึงแม้ว่าปฏิทินน่ำเอี๊ยงจะเข้าถึงผู้คนมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มลูกค้าเดิมอายุเริ่มมากขึ้น ส่วนคนรุ่นใหม่ก็เริ่มมีบทบาททางสังคมและกำลังซื้อมากขึ้น ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นคือ สินค้าและบริการดั้งเดิมของน่ำเอี๊ยงนั้นไม่สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้

ด้วยเหตุนี้คุณกิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นที่ 3 ของน่ำเอี๊ยง จึงได้ตัดสินใจครั้งใหญ่คือการพัฒนาแอปพลิเคชั่นน่ำเอี๊ยงขึ้นมา โดยนำข้อมูลที่เป็นภาษาจีนในปฏิทินที่มีคนถามบ่อย ๆ มาปรับเปลี่ยนเป็นไอคอน เพื่อให้คนที่ไม่รู้ภาษาจีนก็สามารถเข้าใจได้

จุดเด่นของแอปนี้คือการให้บริการข้อมูลแบบ personalized ซึ่งก็เหมือนกับการดูดวงรายคน เพียงแค่ใส่ข้อมูลอย่างวันเดือนปีเกิด ก็สามารถนำข้อมูลที่เป็นของตัวเองไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและตัดสินใจอนาคตได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ออกเวอร์ชั่นแรกในปี 2566 การตอบรับยังไม่ดีมากนัก แต่ด้วยความเพียรพยายามในการพัฒนาแอปตลอดเวลาไม่หยุดไม่หย่อน อีกทั้งยังพยายามปรับปรุงแก้ไขจุดบอดของแอปฯ ตามฟีดแบกของลูกค้า ทำให้ในตอนนี้มีผู้ใช้มากถึง 100,000 ราย และมีผู้สมัครสมาชิกกว่า 10,000 คน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงปี

จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้คนไม่ได้รู้จักน่ำเอี๊ยงในฐานะปฏิทินจีนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรู้จักในฐานะแพลตฟอร์มโหราศาสตร์จีนที่จะเป็นที่พึ่งทางใจให้กับคนรุ่นใหม่ ความสำเร็จของการทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมให้เป็นรูปแบบดิจิทัล และการมองเห็นโอกาสของการทำตลาดสายมูหรือที่เรียกว่า muketing ทำให้นอกจากจะสามารถต่อลมหายใจของน่ำเอี๊ยงแล้ว ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทายาทรุ่นที่ 3 อย่างคุณกิตติธัชนั้น ก็สามารถสานต่อและพัฒนาธุรกิจน่ำเอี๊ยงให้ยั่งยืนและดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมได้ไม่แพ้รุ่นก่อน ๆ