ปัจจุบันประเทศจีนนั้นถือเป็นผู้นำด้านความงามเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากเทรนด์แต่งหน้าแบบสาว Douyin (แพลตฟอร์มวิดีโอลักษณะคล้าย TikTok) ซึ่งเป็นการแต่งหน้าที่เน้นเสริมมิติให้เครื่องหน้าชัดเจน เพื่อทำให้ใบหน้าดูมีมิติเล่นแสงสู้กล้องได้ดีนั่นเอง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเทรนด์การแต่งหน้าต่าง ๆ ของจีนก็ล้วนหล่อหลอมมาจากวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยโบราณมีที่เทรนด์การแต่งหน้าในแต่ละยุค วันนี้น่ำเอี๊ยงจึงพามาส่องจุดเด่นของการแต่งหน้าในยุคโบราณกับการแต่งหน้าเทรนด์ Douyin ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?
✨การแต่งหน้าเชิงสัญลักษณ์✨
การแต่งหน้าในยุคโบราณของจีน มีค่านิยมความงามแตกต่างกันไปในแต่ละยุค ทว่าในสมัยราชวงศ์ถังนั้น ถือเป็นยุคที่มีเทคนิคในการแต่งหน้าที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นยุคที่มีการเป็นกว้างเรื่องวัฒนธรรม ทำให้ผู้หญิงในยุคนี้มีเสรีในการเสริมความงามต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเน้นการทาแป้งขาวให้ทั่วใบหน้า ปัดแก้มโทนแดงทั่วบริเวณหน้าแก้ม และทาปากสีชาด นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในการแต่งแต้มสัญลักษณ์บนใบหน้าเพื่อความงาม ซึ่งแต่ละสัญลักษณ์มีดังต่อไปนี้
🪞ฮวาเตี้ยน (花鑀)🌸
เป็นเทรนด์การแปะหรือวาดรูปกลีบดอกไม้บนกลางหน้าผาก โดยสีที่ใช้มากที่สุดคือสีแดง รองลงมาคือสีเขียวและสีเหลือง จะพบได้เฉพาะสตรีในราชสำนักและสตรีชั้นสูงในสมัยจีนโบราณ ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ มีเรื่องเล่าถึงองค์หญิงรูปงามนางหนึ่ง ออกไปชื่นชมดอกเหมยในสวนของพระราชวัง และผล็อยหลับไปในสวน จนกลีบดอกเหมยปลิวมาแปะบนหน้าผากและทิ้งรอยคล้ายดอกไม้ไว้นานหลายวัน เหล่าสตรีในพระราชวังเห็นถึงความสวยงามนี้ต่างพากันเลียนแบบนาง จนการแต่งหน้าแบบฮวาเตี้ยนกลายเป็นกระแสตลอดหลายศตวรรษ และมีการสร้างสรรค์วาดลวดลายใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปสัตว์ ดวงดาว พระจันทร์ หยดน้ำ และดอกไม้ อีกทั้งยังมีการประยุกต์ใช้วัสดุที่แปลกใหม่มากขึ้น เช่น ผงทอง ไข่มุก เปลือกหอย ขนนก ปีกผีเสื้อหรือแมลงปออีกด้วย
🪞เซี่ยหง (斜紅)☀️
เป็นการวาดรูปพระจันทร์เสี้ยวสีแดงบริเวณขมับทั้งสองข้าง โดยต้นกำเนิดเกิดจากพระสนมนางหนึ่ง เกิดประสบอุบัติเหตุศีรษะกระแทกกระจกกลางห้องระหว่างเตรียมตัวเข้าพบฮ่องเต้ จนบาดเจ็บและเกิดแผลเป็นคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยวบริเวณขมับ ฮ่องเต้ที่หลุ่มหลงในความงามของนางจึงยกย่องบาดแผลของนางว่าเป็นเสมือนดั่งดวงอาทิตย์ยามอรุณรุ่ง จึงทำให้พระสนมนางอื่นเลียนแบบจนกลายเป็นกระแสการแต่งหน้าที่แพร่หลายในราชวงศ์ถัง
เมี้ยนเย่ว์ (面靨)👄
เป็นการวาดจุดสีแดงสองจุดบริเวณมุมปากเพื่อเลียนแบบลักษณะของลักยิ้ม โดยมีเรื่องเล่าว่าในยุคสามก๊ก พระราชโอรสองค์หนึ่งพลั้งมือตีพระสนมคนโปรดด้วยแท่นหยก ทำให้ใบหน้าของเธอบาดเจ็บจนเกิดรอยแผลเป็นคล้ายลักยิ้ม ทว่ารอยแผลเป็นเหล่านี้ทำให้เธอดูงดงามในสายตาของพระราชโอรสมากขึ้น ทำให้พระสนมนางอื่นเริ่มหันมาแต่งหน้าสไตล์นี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทว่าภายหลังมีจุดประสงค์เพื่อแจ้งว่ามีประจำเดือน กล่าวคือเมื่อนางในอยู่ในช่วงเวลาที่ร่างกายไม่เหมาะจะถวายตัวรับใช้องค์ฮ่องเต้ จะมีการแต้มจุดนี้ไว้เป็นสัญลักษณ์
✨รู้จัก “Douyin Makeup” เทรนด์แต่งหน้าสาวจีนยุคใหม่✨
Douyin คือแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชื่อดังที่ถือว่าเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ใช้คนจีน ที่จะลงคลิปวิดีโอต่าง ๆ คล้ายกับ TikTok ต่อมามีเทรนด์การแต่งหน้าของสาวจีนมากมาย ที่มีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นการแต่งหน้าสไตล์ Douyin Makeup ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งจุดเด่นของการแต่งหน้าสไตล์นี้มีดังนี้
💄เขียนคิ้วแบบอ่อนฟุ้ง
การแต่งหน้าแบบ Douyin นั้น ส่วนใหญ่จะเน้นการแต่งโทนสีชมพู ให้ลุคดูเป็นสาวหวาน จึงนิยมเขียนคิ้วด้วยสีน้ำตาลหรือเทาโทนอ่อนแบบฟุ้ง ๆ ไม่คมชัดมากนัก เพื่อเสริมความละมุนให้รับกับโทนสีของเครื่องสำอางอื่น ๆ บนใบหน้า
💄ดวงตากลมโตพร้อมชิมเมอร์วิบวับ
ด้านงานตาของ Douyin makeup จะเน้นอายแชโดว์สีโทนธรรมชาติ เช่น สีชมพูนู๊ด และสีพีชพู๊ด เกลี่ยให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้อายแชโดว์สีเข้มวาดบริเวณถุงใต้ตา ช่วยให้ดวงตากลมโต พร้อมทาชิมเมอร์ที่หัวตาและเปลือกตา ให้ดวงตาดูสดใสมากขึ้น
💄ปัดแก้มพาดจมูกลุคเขินอาย
อีกหนึ่งจุดเด่นสไตล์สาว Douyin นิยมปัดบลัชตั้งแต่บริเวณใต้ตาไปถึงหน้าแก้ม รวมถึงปัดพาดปลายจมูกและคาง ทำให้ได้ลุคที่เด็กลงเหมือนสาวแก้มแดงขี้อาย ดูน่ารักขี้อ้อน และยังช่วยให้หน้ามีมิติมากขึ้นอีกด้วย
💄เติมกลิตเตอร์กุ๊กกิ๊กพร้อมไฮไลต์สุดพุ่ง
เนื่องจากการแต่งหน้าไตล์นี้จะเน้นการเล่นแสง จึงนิยมเติมกลิตเตอร์วิบวับที่มีรูปทรงต่าง ๆ เช่น ดาวหรือหัวใจ เพิ่มความแฟนตาซีชวนฝันราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย รวมทั้งเติมไฮไลท์สีแชมเปญโทนชมพูบริเวณปลายจมูก และหัวตา ทำให้ใบหน้ามีลูกเล่นวิบวับสู้แสงกล้องได้ดี
💄ทาปากสีฉ่ำวาว
ในส่วนการทาปากนั้น จะเน้นความมันวาวของริมฝีปากเพื่อเสริมให้ลุคดูฉ่ำน้ำและอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น จึงนิยมใช้ลิปกลอสโทนชมพูในการ finish look โดยเริ่มจากการเบลนด์ลิปสติกให้ทั่วเรียวปาก และเลยขอบปากออกมาเล็กน้อย จึงนั้นใช้ลิปสีเข้มกว่าทาด้านในขอบปากไล่สีออกมาเพื่อสร้างมิติให้เรียวปาก แล้วทาทับด้วยลิปกลอส
จะเห็นได้ว่าประเทศจีนนั้นมีพัฒนาการด้านการแต่งหน้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตที่มีการแต่งหน้าเชิงสัญลักษณ์ จนถึงยุคปัจจุบันที่เน้นทำให้ใบหน้าดูมีมิติและมีเครื่องหน้าโหงวเฮ้งที่ดูชัดเจนมากขึ้น ทว่าปัจจุบันมีเทคนิคการทำหัตถการที่สามารถช่วยเปลี่ยนโครงหน้าที่สามารถคงอยู่ได้นานกว่าการแต่งหน้าเข้ามาร่วมด้วย การทำหัตถการจึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับสาว ๆ ในการปรับเปลี่ยนโครงหน้าเพื่อความสวยงาม ซึ่งท่านสามารถดูฤกษ์ยามประกอบเพื่อให้การเข้ารับหัตถการนั้นราบรื่น ผลลัพธ์สุขสมดั่งใจหมายด้วยบริการดูฤกษ์เสริมความงามกับสำนักโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฤกษ์ยามตามหลักโหราศาสตร์จีนด้วยประสบการณ์กว่า 8 ทศวรรษ
โดยในบริการ ประกอบด้วย
✅วันมงคลเข้ารับหัตถการ
✅สีมงคลเสริมดวงชะตา
✅ทิศมงคลสำหรับไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อ้างอิง
https://www.pandanese.com/blog/traditional-chinese-makeup
https://euphoricsun.com/blogs/asian-inspiration-beauty/makeup-trends-through-ancient-chinese-history