🔍สีกาลกิณีมีที่มาอย่างไร🌈

“วันจันทร์ ห้ามใส่สีแดง” เชื่อว่านี่คงเป็นวลีที่เราได้ยินกันจนคุ้นหูว่าในแต่ละวันจะมีสีกาลกิณีที่ไม่เหมาะแก่การสวมใส่ ซึ่งก็เป็นความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ที่ไทยมีมาแต่อดีตกาล เนื่องจากได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาฮินดู ในแนวคิดเรื่องเทพประจำวันเกิดหรือเทพนพเคราะห์ที่จะมีสีประจำตัวและสีที่ไม่ถูกโฉลกของเทพประจำวันนั้นนั่นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วไทยยังได้รับอิทธิพลเรื่องสีกาลกิณีจากแหล่งอื่นอีกมากมาย เช่น ตำราพรหมชาติ ตำราคัมภีร์เฉลิมไตรภพ ซึ่งโหราศาสตร์จีนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน น่ำเอี๊ยงจึงนำเรื่องราวที่มาของสีกาลกิณีฉบับโหราศาสตร์จีนและทริคในการสวมใส่เสื้อสีกาลกิณีมาเล่าให้ฟังกัน

ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนมีความเชื่อว่าจักรวาลประกอบไปด้วย 5 ธาตุ (五行) ได้แก่ น้ำ (水) ไม้ (木) ไฟ (火)  ดิน (土) และทอง (金) ซึ่งทั้ง 5 ธาตุนั้นจะทำงานเป็นวัฏจักรเพื่อหนุนนำกัน (生)  (อ่านเรื่องวัฏจักรของธาตุเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/5elementscycle ) แต่หากธาตุใดธาตุหนึ่งทำงานข้ามวัฏจักรจะสามารถทำให้ธาตุฝั่งตรงข้ามโดนทำลายได้ ซึ่งเรียกว่าการข่ม (克) กันนั่นเอง โดยจะมีหลักการ ดังนี้

💧ธาตุน้ำข่มไฟ เนื่องจากน้ำมีความสามารถในการดับไฟได้

🌳ธาตุไม้ข่มดิน เนื่องจากรากไม้สามารถชอนไชลงผืนดินได้

🔥ธาตุไฟข่มทอง เนื่องจากไฟสามารถทำให้ทองหลอมเหลวได้

🟤ธาตุดินข่มน้ำ เนื่องจากผืนดินสามารถดูดซับน้ำจนแห้งเหือดได้

✨ธาตุทองข่มไม้ เนื่องจากทองถือเป็นโลหะที่มีความสามารถในการตัด จึงตัดไม้ได้

ซึ่งในดวงชะตาของคนก็จะมีธาตุประจำตัวแตกต่างกันไป ทำให้เกิดแนวคิดเรื่องความสมพงศ์เกิดขึ้น เช่น คนธาตุน้ำเข้ากันได้ดีกับคนธาตุไม้ เพราะน้ำสามารถหล่อเลี้ยงไม้ให้เติบโตได้ แต่ไม่ถูกกับคนธาตุไฟ เพราะน้ำจะดับไฟ เป็นต้น 

ต่อมาแนวคิดเรื่องสีมงคลและสีกาลกิณีจึงถูกต่อยอดตามมา เนื่องจากแต่ละธาตุจะมีสีประจำธาตุ ได้แก่

💧ธาตุน้ำ - สีดำ สีฟ้า สีเทา

🌳ธาตุไม้ - สีเขียว สีเขียวแกมน้ำเงิน สีเขียวมรกต

🔥ธาตุไฟ - สีแดง สีชมพู สีม่วง

🟤ธาตุดิน - สีเหลือง สีน้ำตาล สีเบจ

✨ธาตุทอง - สีขาว สีทอง สีเงิน

แต่ละธาตุจึงไม่ควรเสริมสีประจำธาตุที่ตนเองไม่ถูกโฉลกหรือที่เรียกกันว่าสีกาลกิณีนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น คนธาตุไฟมีสีกาลกิณีเป็นสีดำ ฟ้า เทา เพราะเป็นสีประจำธาตุน้ำ ซึ่งเป็นธาตุที่ข่มธาตุไฟ เป็นต้น อีกแง่หนึ่งคือไม่ควรเสริมในธาตุที่ตนมีมากอยู่แล้วอย่างสีของธาตุไฟ เพราะจะยิ่งเพิ่มพลังงานธาตุไฟในดวงชะตาให้มีมากขึ้น จนธาตุทั้ง 5 ไม่สมดุลได้

แต่การดูสีกาลกิณีในแต่ละวันนั้น ไม่สามารถยึดจากการดูแค่ธาตุหลักของเจ้าของดวงชะตาเพียงอย่างเดียวได้ เพราะในแต่ละวันจะมีธาตุประจำวันนั้น ๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อดวงชะตาของแต่ละคนแตกต่างกันไป จึงต้องดูดวงชะตาของวันนั้นประกอบด้วย ทำให้สีกาลกิณีของแต่ละคนสลับสับเปลี่ยนกันตามไปด้วยนั่นเอง

👕ทำอย่างไรเมื่อสีโปรดดันกลายเป็นสีกาลกิณี ❌

จากที่ได้ทราบสีกาลกิณีเบื้องต้นของตนเองแล้ว มักจะมีคำถามยอดฮิตตามมาว่าถ้าสีโปรดหรือสีที่เราใส่แล้วมั่นใจกลับกลายเป็นสีกาลกิณีของเราในวันนั้น ๆ จะทำอย่างไรได้บ้าง มีวิธีดังนี้

  1. หาเครื่องประดับที่เป็นสีมงคลประจำวันนั้นมาใส่เพื่อแก้เคล็ด เช่น แหวน ยางรัดผม ต่างหู เครื่องสำอาง เป็นต้น
  2. เสริมดวงด้วยสิ่งของตกแต่งประจำธาตุ เช่น หากขาดธาตุไม้ สามารถหาต้นไม้หรือวัสดุที่ทำจากไม้มาวางตกแต่งโต๊ะทำงาน
  3. ใส่ชุดชั้นในที่เป็นสีมงคลไว้ด้านในแทน หากสีมงคลของวันนั้นเป็นสีที่ทำให้เราไม่มั่นใจ
  4. เปลี่ยนวอลเปเปอร์มือถือเป็นสีมงคลประจำวัน

เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้เรายังคงความชอบและความมงคลควบคู่กันไปได้ และยังเป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์ หาไอเดียในการ Mix & Match สีต่าง ๆ ไปในตัวอีกด้วย แต่หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ต้องใส่เสื้อผ้าสีกาลกิณีโดยที่ไม่มีสีมงคลเสริมดวงแต่อย่างใด ทุกคนก็ยังสามารถใส่ได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นและควรมีสติรอบคอบในการคิดจะทำการอันใด เพราะสีมงคลและสีกาลกิณีนั้นเป็นเพียงแนวทางเพื่อช่วยให้ชีวิตของเจ้าของดวงชะตาราบรื่นขึ้น แต่ตัวเจ้าของดวงชะตาเองนั้นก็ต้องลิขิตชีวิตของตนเองประกอบไปด้วยเช่นกัน

NumEiang

NumEiang